Riot Games เผยข้อมูลเกี่ยวกับ VCT Challengers 2024 ของ APAC!

Riot Games ผู้พัฒนาและให้บริการเกม เอนเตอร์เทนเมนต์ และการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตจากสหรัฐอเมริกา เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ VCT Challengers 2024 

หลังจากที่มีการประกาศล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศครั้งใหญ่สำหรับผู้ร่วมแข่งขันทั่วโลก Riot Games ต้องการให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และต้องการอธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลต่อการแข่งขันในภูมิภาคของอย่างไร โดยคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่นี่!

สินค้า Valorant ที่คุณอาจสนใจ

Riot Games เปิดตัว VCT Challengers ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างหนึ่งที่ Riot Games ได้ประกาศคือการจับคู่การแข่งขันระหว่าง Challengers Leagues กับ Premier Zones ตามลำดับ สำหรับการแข่งขันในภูมิภาค APAC นี้ เป็นการนำเอาตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของมารวมเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งกลุ่มที่จะดำเนินการจัดการแข่งขันประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย/สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน/ฮ่องกง ดังนั้น โดยสรุปแล้วจะมีการแข่งขันรอบ Challengers Leagues ทั้งหมด 5 ครั้งในภูมิภาค APAC ที่จะเริ่มต้นในปลายปีนี้

ก่อนที่จะมีการเปิดตัวกลุ่ม Premier  Riot Games ได้จัดโครงสร้าง Challengers ไว้สำหรับการแข่งขัน 6 ครั้งในเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายคือการส่งเสริมระบบนิเวศอีสปอร์ตของ VALORANT ที่ยั่งยืนและเจริญเติบโตยิ่งขึ้นในทุกโซนการแข่งขัน 

ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในเป้าหมายดังกล่าว แต่ Riot Games ตระหนักดีว่าในการเริ่มเปิดการแข่งขันในภูมิภาค APAC จนถึงการเติบโตขั้นต่อไป Riot Games จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบางอย่าง

ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 เป็นต้นไป Riot Games จะโฟกัสไปที่การแข่งขันทีละภูมิภาค เริ่มจากการแข่งขัน VCT Challengers SEA

Riot Games ทำตามเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ โดยจำกัดการโฟกัสให้แคบลงและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ Riot Games สามารถปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของทีมผู้แข่งขันและบรรดากองเชียร์ทั่วทั้งภูมิภาคได้

สำหรับทีมที่กำลังแข่งขันกันในตลาดที่ดำเนินการจัดการแข่งขัน คุณสมบัติในการเข้าร่วมการแข่งขันใน Challengers SEA จะขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันจากการแข่งขันรอบ Split 2 ของปีนี้ โดยทีมที่ชนะจะถูกจัดระดับอยู่ในทีมผู้ท้าชิงประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง Challengers SEA ร่วมกับทีมที่ได้คะแนนสูงสุดในระดับ Premier ซึ่งทีมที่มีอันดับสูงสุดจะมีโอกาสได้แข่งขันโดยตรง ในขณะที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน Challengers Split 2 ที่เหลือจะถูกจัดอยู่ในระดับแขกรับเชิญของทีมระดับ Premier เพื่อที่จะมีโอกาสในการต่อสู้เป็นครั้งที่สองในรอบคัดเลือก

โอกาสการเติบโตในคอมมูนิตี้

Riot Games หวังว่าการแข่งขัน VCT Challengers ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกับทุกคนในคอมมูนิตี้ของชาว VALORANT

สำหรับทีมระดับมืออาชีพ การแข่งขัน Challengers SEA จะนำเสนอแพลตฟอร์มระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อการจับคู่ทีมผู้ร่วมแข่งขันระดับนานาชาติ Riot Games รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าระดับการแข่งขันจะเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อแต่ละทีมเริ่มทดสอบทักษะของตนนอกเหนือจากการแข่งขันกับกลุ่มผู้ร่วมการแข่งขันภายในประเทศตามปกติ

ด้วยการรวมตัวกับกลุ่ม Premier ตอนนี้ Riot Games สามารถสร้างเส้นทางสู่ความเป็นมืออาชีพที่โปร่งใสมากขึ้นผ่าน VALORANT ได้โดยตรง โดยให้โอกาสสำหรับผู้เล่นและทีมใหม่ ๆ ที่จะมุ่งหน้าสู่ระบบนิเวศของ VCT ทีมที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน Challengers SEA ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่เก่งที่สุดในตลาดเท่านั้น แต่พวกเขายังจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ร่วมแข่งขันทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

จากการเพิ่มการเดิมพันด้วยวิธีนี้ Riot Games มั่นใจว่าการแข่งขัน Challengers SEA จะเป็นการแข่งขันที่สนุกสนานยิ่งขึ้นทั้งการรับชมและการเข้าร่วมการแข่งขัน บรรดากองเชียร์สามารถรอดูการจับคู่การแข่งขันระดับนานาชาติที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ รวมถึงมูลค่าของการถ่ายทอดสดการแข่งขันที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น

สำหรับพันธมิตรของ Riot Games  การแข่งขันที่รวมเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นเกมการแข่งขันที่มีความหมายและมีเสถียรภาพมากขึ้นในการทำงานระยะยาว

การเพิ่มตารางการแข่งขัน VCT Challengers ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อความยั่งยืน Riot Games จะเพิ่มตารางการแข่งขัน Challengers เป็น 3 รอบในปีนี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการรับฟังเสียงของผู้คนในคอมมูนิตี้และตระหนักถึงความจำเป็นของการมีรูปแบบที่สร้างสรรค์ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งทีมและผู้เล่นมีความมั่นคง รวมถึงมีเวลามากขึ้นในการแข่งขันและฝึกฝนทักษะ

ในปีนี้ Riot Games จะเปิดการแข่งขันรอบสุดท้ายหลังจาก Ascension ซึ่งเป็นเวลาที่เป็นการรวมทีมระดับ Premier  เข้าสู่การแข่งขันระดับ Challengers Leagues ทั่วทั่งภูมิภาค APAC อย่างเป็นทางการ

ภาพรวมของการแข่งขัน VCT Challengers Split 3 2024 APAC

พันธมิตรของ Riot Games ในภูมิภาคต่าง ๆ จะเปิดเผยรูปแบบการแข่งขันรอบที่ 3 เร็ว ๆ นี้ ดังนั้นโปรดติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด สำหรับตอนนี้ Riot Games จะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละรอบการแข่งขัน รวมถึงวิธีการที่ทีมผู้แข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขัน VCT Challengers SEA เป็นครั้งแรก

โดยเหล่าทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้จะต่อสู้กันเพื่อคว้าโอกาสในการชิงชัยเข้าสู่ Challengers Split 1 ในปีหน้า!

Challengers Southeast Asia

• วันที่: เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567
• จำนวนทีมที่ร่วมการแข่งขัน: ทั้งหมด 16 ทีม
  • 12 ทีมจาก Challengers Southeast Asia leagues (อินโดนีเซีย มาเลเซีย/สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน/ฮ่องกง)
  • ทีมที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกจาก Summer Split จะผ่านเข้ารอบ Split 3
  • 4 ทีมจากรอบการแข่งขัน Premier Episode 9)
    • 1 ทีมจาก Act 1 
    • 3 ทีมจาก Act 2

Challengers Japan

• วันที่: เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567
• จำนวนทีมที่ร่วมการแข่งขัน: ทั้งหมด 16 ทีม
  • 4 ทีมจาก Challengers Japan Split 2
  • 12 ทีมจาก Premier
    • 4 ทีมจาก Episode 8 Act 3
    • 4 ทีมจาก Episode 9 Act 1
    • 4 ทีมจาก Episode 9 Act 2

Challengers South Korea

• วันที่: เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2567
• จำนวนทีมที่ร่วมการแข่งขัน: ทั้งหมด 16 ทีม
  • 8 ทีมจาก Challengers South Korea Split 2
  • 8 ทีมจาก Premier Episode 9
    • 4 ทีมจาก Act 1 
    • 4 ทีมจาก Act 2

Challengers South Asia

• วันที่: เดือนกันยายน – ตุลาคม 2567
• จำนวนทีมที่ร่วมการแข่งขัน: ทั้งหมด 14 ทีม
  • 8 ทีมจาก Challengers South Asia Split 2
  • 2 ทีมจาก Premier Episode 9
    • 1 ทีมจาก Act 1 
    • 1 ทีมจาก Act 2 
  • 4 ทีมจาก Open Qualifier

Challengers Oceania

• วันที่: เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2567
• จำนวนทีมที่ร่วมการแข่งขัน: ทั้งหมด 16 ทีม
  • 8 ทีมจาก Challengers Oceania Split 2
  • 8 ทีมจาก Premier Episode 9
    • 4 ทีมจาก Act 1 
    • 4 ทีมจาก Act 2

อ่านเพิ่ม: stax มองข้อผิดพลาด T1 ร่วง Pacific Stage 2